ปลดล็อกหนี้! ‘คุณสู้ เราช่วย’ เฟส 2 ครม. ขยายเวลา แนะขั้นตอนรับสิทธิ์โครงการ

คุณกำลังเผชิญกับปัญหาหนี้สินที่ถาโถมอยู่ใช่ไหม? ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป! รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าใจถึงความท้าทายที่คุณกำลังเจอ และพร้อมยื่นมือเข้ามาช่วยด้วย โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 โครงการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็น ‘ทางออก’ ให้ลูกหนี้รายย่อยอย่างคุณได้หายใจคล่องขึ้น ด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน เพื่อให้คุณสามารถกลับมาตั้งหลักได้อีกครั้ง! ที่สำคัญ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ขยายเวลาและเพิ่มคุณสมบัติกลุ่มลูกหนี้ให้ครอบคลุมมากขึ้นแล้วด้วย! มารู้จักโครงการนี้กันว่าคืออะไร ใครเข้าร่วมได้บ้าง และจะเข้าถึงความช่วยเหลือนี้ได้อย่างไร!
“คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 คืออะไร?
โครงการคุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 คือมาตรการที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่กำลังติดขัดเรื่องการผ่อนชำระหนี้ ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต, สินเชื่อส่วนบุคคล, สินเชื่อรถยนต์/รถจักรยานยนต์, สินเชื่อบ้าน, หรือแม้แต่สินเชื่อธุรกิจ (วงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท) โครงการนี้จะช่วยคุณปรับโครงสร้างหนี้ระยะยาว เพื่อลดภาระและให้คุณได้มีโอกาสกลับมาบริหารจัดการหนี้สินได้ดีขึ้นอีกครั้ง
ทำไมคุณต้องรู้?
โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีเป้าหมายชัดเจนที่จะช่วยให้ชีวิตลูกหนี้ดีขึ้น ด้วยวัตถุประสงค์หลักๆ ดังนี้:
- ลดดอกเบี้ยให้เบาลง: ช่วยลดภาระดอกเบี้ยที่สูงลิ่ว ให้คุณมีเงินเหลือไปใช้จ่ายจำเป็นและมีกำลังผ่อนชำระมากขึ้น
- ผ่อนยาวขึ้นตามกำลัง: ปรับแผนการชำระหนี้ให้เหมาะสมกับรายได้และกระแสเงินสดที่คุณมีอยู่จริง ทำให้คุณผ่อนได้สบายขึ้น
- ช่วยคนเดือดร้อนจากเศรษฐกิจ: โครงการนี้ถูกสร้างมาเพื่อรองรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจต่างๆ และผ่อนหนี้ไม่ไหวอย่างต่อเนื่อง
ใครคือผู้ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้?
“คุณ” คือหนึ่งในผู้ที่โครงการนี้พร้อมช่วยเหลือ! โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เปิดกว้างสำหรับลูกหนี้รายย่อยทุกคน ไม่ว่าสถานะหนี้ของคุณจะเป็นปกติ (แม้จะเริ่มฝืดเคือง) หรือเป็น หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณ:
- ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ผ่านมา
- รายได้ลดลง
- ธุรกิจสะดุด
- หรือมีค่าใช้จ่ายจำเป็นเพิ่มขึ้น จนทำให้ผ่อนหนี้ได้ไม่ปกติเหมือนเดิม
ถ้าคุณเข้าข่ายนี้ โครงการนี้คือทางออกที่คุณกำลังมองหา!
สินเชื่อประเภทไหนบ้างที่เข้าร่วมโครงการได้?
โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 ครอบคลุมสินเชื่อหลากหลายประเภทที่สำคัญในชีวิตประจำวันของคุณ ได้แก่:
- หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล: รวมถึงสินเชื่อไม่มีหลักประกันอื่นๆ
- สินเชื่อเช่าซื้อ: ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์
- สินเชื่อที่อยู่อาศัย: สำหรับคนที่มีบ้านและกำลังผ่อนอยู่
- สินเชื่อธุรกิจ: สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 10 ล้านบาท
คุณสมบัติและเงื่อนไขเบื้องต้นที่คุณควรรู้
ก่อนที่คุณจะยื่นขอเข้าร่วมโครงการ มาเช็คคุณสมบัติเบื้องต้นกันก่อน
- คุณต้องได้รับผลกระทบจริง: ต้องแสดงให้เห็นได้ว่าความสามารถในการชำระหนี้ของคุณลดลงจริงๆ
- คุณต้องมีเจตนาดีในการแก้ปัญหาหนี้: แสดงความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาหนี้อย่างจริงจัง
- ครอบคลุมทั้งหนี้ดีและหนี้เสีย: ไม่ว่าหนี้ของคุณจะยังเป็นหนี้ปกติ หรือกลายเป็นหนี้เสีย (NPL) ไปแล้ว ก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้
ข้อควรรู้สำคัญ: การปรับโครงสร้างหนี้อาจมีผลต่อ ประวัติเครดิตบูโร ของคุณได้ ดังนั้น อย่าลืมศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และปรึกษาเจ้าหน้าที่สถาบันการเงินที่คุณเป็นหนี้อยู่ ก่อนตัดสินใจนะคะ/ครับ
ขั้นตอนเข้าถึงความช่วยเหลือจากโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2
การเข้าร่วมโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 นั้นง่ายกว่าที่คุณคิด! เพียงทำตามขั้นตอนเหล่านี้ คุณก็จะสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือและจัดการปัญหาหนี้ได้อย่างรวดเร็ว:
ขั้นตอนที่ 1: ติดต่อสถาบันการเงินเจ้าหนี้ของคุณทันที!
สิ่งแรกและสำคัญที่สุดที่คุณต้องทำคือ รีบติดต่อสถาบันการเงินที่คุณเป็นหนี้อยู่โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร บริษัทสินเชื่อ หรือผู้ให้บริการทางการเงินอื่นๆ
- แจ้งความประสงค์: บอกเจ้าหน้าที่ชัดเจนว่าคุณต้องการขอปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2
- เตรียมข้อมูลให้พร้อม: เตรียมข้อมูลส่วนตัวของคุณ และรายละเอียดเกี่ยวกับสินเชื่อที่มีอยู่ รวมถึงเล่าปัญหาที่ทำให้คุณผ่อนหนี้ได้ไม่ปกติ การเตรียมตัวไปดีจะช่วยให้การพูดคุยเป็นไปอย่างรวดเร็ว
ขั้นตอนที่ 2: เจรจาและเสนอแผนการชำระหนี้ที่เหมาะสม
หลังจากติดต่อแล้ว คุณจะได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยประเมินสถานการณ์ทางการเงินของคุณ และเสนอทางเลือกในการปรับโครงสร้างหนี้ที่เหมาะสม ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบ:
- ปรับลดค่างวด ให้คุณผ่อนไหวขึ้น
- ขยายระยะเวลาผ่อนชำระ ให้สบายขึ้น
- ลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อลดภาระดอกเบี้ยที่สูง
- รวมหนี้หลายบัญชีเป็นบัญชีเดียว เพื่อให้บริหารจัดการง่ายขึ้น
เคล็ดลับสำคัญ: สื่อสารสถานะทางการเงินของคุณอย่างตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์ เพื่อให้สถาบันการเงินสามารถประเมินและเสนอทางออกที่ดีที่สุดให้กับคุณได้จริงๆ
ขั้นตอนที่ 3: ลงนามในข้อตกลงและเริ่มผ่อนชำระตามแผนใหม่
เมื่อคุณและสถาบันการเงินตกลงแผนการปรับโครงสร้างหนี้กันได้แล้ว ก็ถึงขั้นตอนสุดท้าย:
- ตรวจสอบข้อเสนอให้ละเอียด: อ่านและพิจารณาข้อเสนอที่ได้รับอย่างถี่ถ้วน
- มีข้อสงสัย? ถามเลย!: หากมีจุดไหนไม่เข้าใจ หรือมีคำถาม อย่าลังเลที่จะสอบถามเจ้าหน้าที่ให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจ
- เซ็นสัญญาใหม่: เมื่อคุณพอใจกับข้อเสนอ ก็ถึงเวลาลงนามในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ฉบับใหม่
- เริ่มผ่อนชำระตามแผน: สิ่งสำคัญที่สุดคือ ปฏิบัติตามแผนการผ่อนชำระที่ตกลงกันไว้อย่างเคร่งครัด นี่คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณหลุดพ้นจากปัญหาหนี้สินในระยะยาว!
ขยายเวลาและเพิ่มคุณสมบัติถึงเมื่อไหร่?
ด้วยความสนใจอย่างต่อเนื่องจากลูกหนี้ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ คณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงได้ขยายเวลาและเพิ่มคุณสมบัติกลุ่มลูกหนี้ให้ครอบคลุมมากขึ้น! คุณสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ได้จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2568 (จากเดิมที่สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568) นี่คือโอกาสที่คุณไม่ควรรอช้า!
เป้าหมายและความคาดหวังของโครงการ
โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ระยะที่ 2 มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการช่วยเหลือลูกหนี้จำนวนมากให้พ้นวิกฤต:
- คาดการณ์การช่วยเหลือเพิ่มเติม: คาดว่าจะสามารถช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีคุณสมบัติเพิ่มได้อีกประมาณ 1.8 ล้านราย หรือ 2.0 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดสินเชื่อคงค้างประมาณ 310,000 ล้านบาท
- รวมความช่วยเหลือทั้งหมด: เมื่อรวมความช่วยเหลือจากโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ทั้งระยะที่ 1 และ 2 แล้ว จะสามารถช่วยเหลือลูกหนี้ได้รวมประมาณ 3.7 ล้านราย หรือ 4.1 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดสินเชื่อคงค้างประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 20 ของจำนวนบัญชีสินเชื่อบ้าน, สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์/รถจักรยานยนต์ และสินเชื่อธุรกิจทั้งหมด
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เฉพาะกลุ่มเพิ่มเติม เช่น:
- มาตรการสินเชื่อสู้ภัย COVID-19: คาดว่าจะช่วยเหลือลูกหนี้ของธนาคารออมสินได้ประมาณ 291,132 บัญชี (ภาระหนี้คงเหลือ 2,732 ล้านบาท) และลูกหนี้ของ ธ.ก.ส. ได้ประมาณ 13,146 บัญชี (ภาระหนี้คงเหลือ 70 ล้านบาท)
- มาตรการสินเชื่อตามนโยบายรัฐบาล: คาดว่าจะช่วยเหลือลูกหนี้ของธนาคารออมสินได้อีกประมาณ 220,000 บัญชี (ภาระหนี้ประมาณ 6,600 ล้านบาท)
กระทรวงการคลังได้จัดทำรายละเอียดข้อมูลเสนอต่อคณะรัฐมนตรีตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 อย่างครบถ้วนแล้ว เพื่อให้มั่นใจถึงความโปร่งใสและประสิทธิภาพของมาตรการเหล่านี้
ข้อควรพิจารณาเพื่อการวางแผนรับมือหนี้อย่างยั่งยืน
นอกจากการทำตามขั้นตอนข้างต้นแล้ว เพื่อให้การจัดการหนี้ของคุณประสบความสำเร็จในระยะยาว ลองพิจารณาข้อแนะนำเหล่านี้เพิ่มเติม:
- อย่ารอช้า รีบปรึกษาทันที: หากคุณเริ่มรู้สึกว่ามีปัญหาในการผ่อนชำระหนี้ อย่านิ่งนอนใจ! ควรรีบติดต่อสถาบันการเงินทันที อย่าปล่อยให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้หลายงวด เพราะยิ่งนาน ยิ่งแก้ปัญหายาก
- ประเมินความสามารถของตัวเองอย่างรอบคอบ: ก่อนตกลงเข้าร่วมโครงการ ให้ประเมินกำลังในการผ่อนชำระหนี้ของตัวเองอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้แผนการผ่อนชำระใหม่มีความเป็นไปได้และยั่งยืน
- โอกาสดีในการสร้างประวัติการเงินที่ดี: การเข้าร่วมโครงการนี้คือโอกาสสำคัญที่คุณจะได้กลับมามีประวัติการชำระหนี้ที่ดีอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในอนาคตของคุณ
หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาหนี้สิน อย่าลังเลที่จะคว้าโอกาสนี้ไว้ เพราะ ครม. ได้ขยายเวลาลงทะเบียนถึง 30 กันยายน 2568 และเพิ่มกลุ่มลูกหนี้ที่ได้รับประโยชน์ให้กว้างขวางขึ้น! นี่คือก้าวสำคัญที่จะช่วยให้คุณหลุดพ้นจากวงจรหนี้และกลับมามีชีวิตที่มั่นคงอีกครั้ง! ติดต่อสถาบันการเงินของคุณได้เลยวันนี้ เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ปราศจากภาระหนี้สินกัน
ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ที่: https://services.bot.or.th/cpm?id=smp_landing_page