ส่อง 3 ธุรกิจ ‘ตลาดสัตว์เลี้ยง’ ฟันรายได้แตะ 2.5 แสนล้านบาท

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผย ผลวิเคราะห์ธุรกิจดาวรุ่งพบ ‘ธุรกิจสัตว์เลี้ยง’ โตต่อเนื่อง 5 ปีที่ผ่านมา หลังผู้บริโภคหันมาเลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อนคลายเหงามากขึ้น จนเสมือนเป็นคนในครอบครัว ส่งผลให้ธุรกิจ 3 กลุ่มเติบโตตามไปด้วยคือ กลุ่มอาหาร/ของเล่น ท๊อปฟอร์มมีอัตราสูงขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า รองลงมากลุ่มบริการ/ดูแล และกลุ่มฟาร์มสัตว์
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ปัจจุบันไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนในสังคม เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต ผู้คนหันมาอยู่บ้าน และใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น รวมถึงการพาสัตว์เลี้ยงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการใช้เวลายามว่างเพื่อแก้เหงา จนบางครั้งสัตว์เลี้ยงได้กลายเป็นเสมือนคนในครอบครัว
นางอรมน ระบุเพิ่มเติมว่า จากการวิเคราะห์ธุรกิจประจำเดือนมิถุนายน 2567 พบว่า ‘ธุรกิจสัตว์เลี้ยง’ มีอัตราการเติบโตขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562-2566) โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มธุรกิจ คือ ฟาร์มสัตว์ 1,233 ราย, อาหาร/ของเล่น 2,138 ราย และบริการ/ดูแล 1,638 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 98,798 ล้านบาท แบ่งเป็น ฟาร์มสัตว์ 11,966 ล้านบาท, อาหาร/ของเล่น 80,444 ล้านบาท และบริการ/ดูแล 6,388 ล้านบาท
“ธุรกิจสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่จัดตั้งในรูปแบบ บริษัทจำกัด 3,900 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 93,342 ล้านบาท รองลงมาคือห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 1,105 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 1,789 ล้านบาท และ บริษัทมหาชน 4 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 3,667 ล้านบาท และเมื่อแยกตามขนาดธุรกิจขนาดเล็ก S มีจำนวนมากที่สุดอยู่ที่ 4,498 ราย รองลงมาเป็นขนาดกลาง M 382 ราย และขนาดใหญ่ L 129 ราย”
นางอรมน ระบุต่อว่า กลุ่มอาหาร/ของเล่น เป็นกลุ่มที่สร้างรายได้สูงสุดอยู่ที่ 196,304 ล้านบาท รองลงมากลุ่มบริการ/ดูแล สร้างรายได้ 23,562 ล้านบาท และกลุ่มฟาร์มสัตว์ สร้างรายได้ 38,837 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังพบข้อมูลที่น่าสนใจ ในกลุ่มบริการ/ดูแล มีเทรนด์การเติบโตที่เพิ่มขึ้น โดยเป็นธุรกิจที่ให้บริการด้านสุขภาพอย่างธุรกิจโรงพยาบาลสัตว์ บริการรับฝากสัตว์เลี้ยง อาบน้ำ/ตัดขน
ส่วนการลงทุนของนักธุรกิจต่างชาติ ในประเทศไทย สร้างมูลค่าการลงทุนในธุรกิจสัตว์เลี้ยง 5,333 ล้านบาท แบ่งเป็น ฟาร์มสัตว์ 228 ล้านบาท, อาหาร/ของเล่น 4,807 ล้านบาท และบริการ/ดูแล 298 ล้านบาท โดยมีต่างชาติที่เข้ามาลงทุนสูงสุด 3 อันดับแรกคือ สิงคโปร์ มูลค่าการลงทุน 1,647 ล้านบาท รองลงมาออสเตรเลีย 871 ล้านบาท และญี่ปุ่น 728 ล้านบาท
ทั้งนี้ ทิศทางของธุรกิจสัตว์เลี้ยงยังมีอนาคตที่สดใส เพราะตลาดมีการแข่งขันกันมากขึ้น ในขณะที่จำนวนผู้บริโภคก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน มากไปกว่านั้น สัตว์เลี้ยงได้กลายมาเป็นคอนเทนต์สร้างสีสันในโลกโซเชียล (Petfluencer) สร้างรายได้ให้เจ้าของที่นำเรื่องราวความน่ารักหรือการพาสัตว์เลี้ยงของตนเองไปท่องเที่ยวที่ต่างๆ มาเผยแพร่ บนโลกออนไลน์จนเกิดผู้ติดตาม และสร้างอิทธิพลทางความคิดจนเกิดการอยากเลี้ยงสัตว์ตามมา