แคนนอน ปลุกตลาดกล้องมิเรอร์เลส เปิดตัว Canon EOS R7 และ EOS R10 พร้อมราคาขายในไทย
-
Canon EOS R7 ฟีเจอร์ขั้นเทพที่เปี่ยมประสิทธิภาพ สปีดเร็ว แม่นยำ และทนทานไม่แพ้กล้องระดับมืออาชีพ ครอบคลุมทั้งการถ่ายภาพกีฬา ยานยนต์ นกและสัตว์ป่า พร้อมประสิทธิภาพด้านงานวิดีโอระดับ 4K60P (7K Oversampling)
-
Canon EOS R10 ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างอิสระ ฟังก์ชันการถ่ายภาพสุดล้ำช่วยผู้ใช้งานง่ายขึ้น นักสร้างวิดีโอคอนเทนต์ด้วยฟังก์ชันการถ่ายวิดีโอแนวตั้ง
-
Canon RF-S เลนส์รุ่นเริ่มต้นสำหรับมือใหม่ในระบบ EOS R ขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา สะดวกต่อการพกพาสำหรับเก็บภาพในชีวิตประจำวันได้อย่างคล่องตัว
แคนนอน (Canon) พร้อมลุยตลาดกล้องมิเรอร์เลสเต็มรูปแบบ เปิดตัวผลิตภัณฑ์กล้องใหม่พร้อมกันถึง 2 รุ่น ได้แก่ Canon EOS R7 และ EOS R10 ที่ได้รับการส่งต่อเทคโนโลยีระบบโฟกัสจาก Canon EOS R3 โดย Canon EOS R7 ความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวกล้อง (In-Body Image Stabilization) มั่นใจในการทำงานภาคสนามด้วยการซีลป้องกันฝุ่นและละอองน้ำ ส่วน Canon EOS R10 มาพร้อมลูกเล่นฟังก์ชันใหม่ที่ให้ผู้ใช้ทำงานได้ง่ายมากยิ่งขึ้น อาทิ โหมดพาโนรามา โหมด Focus bracketing ในตัวกล้อง โหมดแพนนิ่ง และแฟลชในตัว รูปทรงเล็กกะทัดรัด มอบความคล่องตัวในการใช้งาน นอกจากนี้แคนนอนยังเปิดตัวเลนส์ใหม่พร้อมกันอีก 2 รุ่น ได้แก่ Canon RF-S 18-45mm f/4.5-6.3 IS STM และ RF-S 18-150mm f/3.5-6.3 IS STM เลนส์รุ่นเริ่มต้น เพื่อเติมเต็มประสิทธิภาพให้กับกล้องมิเรอร์เลสระบบ EOS R พร้อมน้ำหนักที่เบากว่า พกพาใช้งานง่าย
มร.ฮิโรชิ โยโกตะ ประธานบริษัท และประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า กล้อง Canon EOS R7 และ EOS R10 รวมถึงเลนส์ซีรีส์ RF-S รุ่นใหม่นี้จะสามารถตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานที่แตกต่างกันได้อย่างครอบคลุม และช่วยให้ผู้ใช้งานสัมผัสได้ถึงประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมของระบบ Canon EOS R
“แคนนอนถือเป็นสัญลักษณ์แห่งมาตรฐานระดับสูงของวงการกล้องถ่ายภาพระดับโลกมายาวนาน และบริษัทฯ เพิ่งจะฉลองครอบรอบ 35 ปี ของระบบ EOS ไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แคนนอนมีการพัฒนาและขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง จนในปัจจุบันระบบ EOS มีผลิตภัณฑ์กล้องทั้งหมด 21 รุ่น รวมถึงเลนส์ RF และ EF มากถึง 104 รุ่น ครอบคลุมทุกความต้องการทั้งการบันทึกภาพนิ่ง วิดีโอ หรือแม้แต่คอนเทนต์ภาพถ่ายเสมือนจริง และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคเสมอมา จนทำให้เรามียอดการผลิตเลนส์ Canon ตระกูล RF และ EF ครบ 150 ล้านชิ้นเมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา แคนนอนคือหนึ่งในแบรนด์กล้องถ่ายภาพที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของโลก โดยเราสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ของโลกในกลุ่มผลิตภัณฑ์กล้องดิจิทัลแบบถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ ต่อเนื่องมายาวนานถึง 19 ปี นับตั้งแต่ปี 2546 แคนนอนจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีด้านภาพแบบครบวงจรอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อให้ผู้ใช้งานชาวไทยและทั่วโลก ได้สัมผัสกับประสบการณ์การถ่ายภาพอันยอดเยี่ยมและได้ภาพถ่ายคุณภาพสูง รวมถึงการมุ่งมั่นขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ในระบบ EOS R อย่างต่อเนื่อง”
นางสาวเนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการ กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์อิมเมจจิ้งอินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวเสริม แผนการพัฒนาธุรกิจในปี 2565 นี้ แคนนอนก้าวไปอีกขั้นด้วยการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ในระบบ EOS R โดยเฉพาะกล้องมิเรอร์เลสที่ใช้เซ็นเซอร์ APS-C ที่มอบประสิทธิภาพทั้งในเรื่องของความเร็ว การถ่ายภาพต่อเนื่อง และการบันทึกภาพเคลื่อนไหวคุณภาพสูง เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานที่แตกต่างกันได้อย่างครอบคลุม โดยในการเปิดตัวครั้งนี้นำทัพโดยกล้อง Canon EOS R7 ซึ่งเป็นพระเอกของงาน ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานกล้องแบบจริงจังซึ่งต้องการกล้องประสิทธิภาพสูง สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงและมีระบบออโต้โฟกัสที่รวดเร็วแม่นยำ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวทั้งกีฬา ยานยนต์ นกและสัตว์ป่า โดยสื่อโฆษณาหลักของ Canon EOS R7 มีการนำเสนอภาพของแรปเตอร์ (Raptor) นกนักล่าที่เปี่ยมด้วยสัญชาตญาณแห่งพลังความเร็วและความแม่นยำในการโฉบจับเหยื่อ สื่อถึงความเร็วในการจับโฟกัสที่แม่นยำและการถ่ายภาพต่อเนื่องของ Canon EOS R7 สามารถถ่ายภาพที่ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซลได้ต่อเนื่องสูงสุดถึง 30 เฟรมต่อวินาที และนอกจากนี้ ตัว R ของ Raptor ก็ยังสอดคล้องกับความเป็นกล้องในตระกูล EOS R Series ของแคนนอนอีกด้วย”
“ส่วนกล้อง Canon EOS R10 เน้นกลุ่มผู้ใช้งานกล้องมือใหม่ที่ต้องการภาพถ่ายคุณภาพสูง น้ำหนักเบา และมีฟีเจอร์อัตโนมัติที่ช่วยในการนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ด้วยโหมด SCN แบบใหม่ ทั้งโหมดการถ่ายภาพแบบพาโนรามา, โหมด Focus bracketing ในตัวกล้อง และโหมดแพนนิ่งเพื่อให้ผู้ใช้สามารถแพนภาพได้สวยงามดุจมืออาชีพ และยังมีฟังก์ชันการถ่ายวิดีโอแนวตั้ง เพิ่มความสะดวกสบายให้กับ นักสร้างวิดีโอคอนเทนต์บนโซเชียลเน็ตเวิร์คอีกด้วย
“เลนส์ทั้งสองรุ่นถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเลนส์รุ่นเริ่มต้นสำหรับผู้ใชกล้องในระบบ EOS R ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเลนส์ Canon RF-S 18-45mm F/4.5-6.3 IS STM เป็นเลนส์ซูมมาตรฐานที่ให้มุมมองกว้าง เหมาะสำหรับการเก็บภาพประทับใจในชีวิตประจำวัน ในขณะที่เลนส์ Canon RF-S 18-150mm F/3.5-6.3 IS STM เป็นเลนส์เพื่อการเดินทางแบบอเนกประสงค์ ครอบคลุมทั้งการถ่ายภาพในชีวิตประจำวัน และถ่ายภาพในระยะไกล เช่น การภาพวิวทิวทัศน์ เกมกีฬา นก และภาพสัตว์ป่า”
ทั้งนี้ แคนนอนวางแผนจัดโปรโมชั่นฉลองการเปิดตัวกล้อง Canon EOS R7 และ EOS R10 รวมถึงเลนส์ Canon RF-S อีกหลายรายการ เพื่อมอบความคุ้มค่าให้แก่ลูกค้าแคนนอนมากที่สุด ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่าง ๆ ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมการถ่ายภาพให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนและทำให้แบรนด์แคนนอนใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น อาทิ กิจกรรม First Touch on Tour, EOS on Air, EOS Academy และอื่น ๆ รวมถึงการสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของพันธมิตรคู่ค้าในประเทศไทย
ราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย
- Canon EOS R7 เฉพาะตัวกล้อง 49,900 บาท
- Canon EOS R7 ชุดพร้อมเลนส์ RF-S18-150mm f/3.5-6.3 IS STM 64,900 บาท
- Canon RF-S18-45mm f/4.5-6.3 IS STM 11,990 บาท
- Canon RF-S18-150mm f/3.5-6.3 IS STM 19,390 บาท
- สำหรับกล้อง Canon EOS R10 จะประกาศราคาและเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยประมาณปลายเดือนกรกฎาคม 2565
Canon EOS R7
Canon EOS R10