“เทศกาลขนหัวลุก” บรรลุแผน Festival กระตุ้นเที่ยวไทย

ผู้ว่า ททท. เดินหน้า New Tourism Ecosystem ปักธง Festival จัดบิ๊กอีเวนต์ขายท่องเที่ยวไทยให้เป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวของภูมิภาค (Tourism Hub) และเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ วัดผลความสำเร็จโมเดล “เทศกาลขนหัวลุก ตลาดขนลุก” หรือ Goosebump Market” “เทศกาลขนหัวลุกเวียงพิงค์” และ “เทศกาลขนหัวลุก เมืองกรุงเก่า พระนครศรีอยุธยา” เล็งขยายทุกภูมิภาค สร้างเม็ดเงินท่องเที่ยวในพื้นที่แล้ว 500 ล้านบาท
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า จากแผนยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไปสู่ระบบนิเวศด้านการท่องเที่ยวใหม่ (New Tourism Ecosystem) ให้เป็นระบบนิเวศด้านการท่องเที่ยวที่มีความสมดุลระหว่างมูลค่าและคุณค่า โดย “คุณค่า” คือ คุณค่าของประสบการณ์ (Value on Experience :VOX) “เทศกาลขนหัวลุก” เป็นหนึ่งอีกกิจกรรมที่เกิดผลสำเร็จดียิ่ง จากยอดจากงาน “เทศกาลขนหัวลุกเวียงพิงค์ @เชียงใหม่ ตอน แม่นาคแอ่วเหนือ” และ “เทศกาลขนหัวลุก เมืองกรุงเก่า พระนครศรีอยุธยา ตอนเที่ยววัดใจ” ที่สร้างความฮือฮาเป็นกระแสไวรัลในโลกออนไลน์ ได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้น การันตีด้วยยอดผู้เข้าชมงานรวมเกือบสองแสนคนต่องาน และสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวรวมกว่า 500 ล้านบาท ถือเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและอยู่ในกระแสความสนใจของคนไทย ททท. จึงได้ต่อยอด จัด“เทศกาลขนหัวลุก ตลาดขนลุก” หรือ Goosebump Market ตลาดนัด Pop-up แนวใหม่ ขึ้นในพื้นที่ กทม. และสร้างกิจกรรมให้ต่อเนื่องจากการจัดในปีที่ผ่านมา ให้เป็นงานที่สร้างมูลค่าทางเศรษ.ฐกิจให้กับกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ
“เทศกาลขนหัวลุกจะเป็นหนึ่งในหมุดหมายที่จะสร้างรูปแบบการท่องเที่ยวในรูปแบบในงานแบบเทศกาลสำคัญให้กับไทยอีกหนึ่งงาน ให้สอดคล้องต่อฤดูกาลท่องเที่ยว และเป็นเทศกาลที่อยู่ในรูปแบบ New Tourism Ecosystem เป็นความร่วมมือร่วมกันขับเคลื่อนทุกฝ่าย ที่ทุกฝ่ายใช้ทรัพยากรที่เป็นจุดแข็งของกันและกัน บริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีคุณค่า ซึ่งต่อไปงานเทศกาลขนหัวลุกจะเป็นหนึ่งในบิ๊กอีเวนต์ของการท่องเที่ยว จัดต่อเนื่อง ขยายการจัดในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญมากขึ้น โดยการจัดกิจกรรม Goosebump Market คาดการณ์ว่าจะสร้างรายได้หมุนเวียนในพื้นที่กว่า 300 ล้านบาท”
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า นับเป็นโอกาสอันดีที่ได้ร่วมจัดงานเทศกาลขนหัวลุกร่วมกับ ททท. อีกครั้ง หลังจากประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในปี 2565 สำหรับโรงงานมักกะสันเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญยิ่งต่อการรถไฟแห่งประเทศไทยในแง่ของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ การจัดงานนี้ถือเป็นการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้โรงงานมักกะสัน รฟท. เป็นที่รู้จักมากขึ้นและเป็นการบูรณาการนำร่องในการใช้พื้นที่ให้เป็นประโยชน์ในการจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว จากการต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมในมิติความเชื่อของคนไทย รฟท. เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าจะสร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมงาน สามารถนํานักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว ด้านความเชื่อและความศรัทธา สู่การเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต้นทางและเชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงได้อย่างแน่นอน
นายชาญยุทธ เศวตสุวรรณ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกรุงเทพ กล่าวว่า ในพื้นที่ กทม. ในหลายพื้นที่ ยังมีความน่าสนใจ และสามารถเชื่อมโยงเชิงประสบการณ์ไปกับเทศกาลขนหัวลุก ซึ่งในแต่ละย่านแต่ละพื้นที่ยังมีเรื่องราว มีตำนาน ที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อทางจิตวิญญาณและสิ่งลี้ลับ ซึ่งนักท่องเที่ยวให้ความสนใจ ในการเดินทางไปยังแต่ละสถานที่ เพื่อไปค้นหาข้อมูล ตามรอยเรื่องราวจากแต่ละแห่ง และที่สำคัญยังได้เพลิดเพลินไปกับการท่องเที่ยวในรูปแบบวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต เมื่อนักท่องเที่ยวเข้าไปยังพื้นที่ต่าง ๆ อย่างเช่น ย่านบางลำพู วัดสังเวชวิศยาราม หรือ วัดสามจีน ที่หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า พื้นที่ตรงจุดนี้ในอดีตช่วงโรคห่า (อหิวาตกโรค) ระบาดสมัยรัชกาลที่ 4 ใช้พื้นที่บริเวณวัดเป็นจุดที่พักศพ เผาศพผู้เสียชีวิต ซึ่งบางคนเข้าใจว่า มีวัดสระเกศ เป็นวัดใช้ในการจัดการศพ และสมัยรัชกาลที่ 6 พระอนุวัตร์ราชนิยม (ยี่กอฮง) ต้นตระกูลเตชะวณิช ผู้ก่อตั้งมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้มีสร้างสะพานพาดผ่านคลองบางลำพู เชื่อมต่อวัดกับพระนคร ในการสัญจรเดินทาง ปี พ.ศ.2460
“ย่านวัดสระเกศ” กับตำนานแร้งกินศพ “ตรอกเซี่ยงไฮ้” ชุมชนที่ผลิตจำหน่ายโลงศพ แหล่งช่างฝีมือในการทำเครื่องไม้ ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานแถบถนนบำรุงเมือง ที่ยังดำเนินกิจการเหลือไม่กี่ราย และให้นักท่องเที่ยวสามารถ ดูการทำโลงศพ กรรมวิธี ขั้นตอน จนเป็นโลง ทั้งแบบไทย จีน ฝรั่ง สำหรับผู้วายชนม์ เพื่อรอการนำไปใช้ตามพิธีกรรม หรือ การไปทานบะหมี่ตรอกโรงผี ที่อยู่ใกล้กัน ซึ่งทานร้านได้สร้างสรรค์ จำลองโลงศพ โกศ มาเป็นภาชนะจัดวางใส่เครื่องปรุง ตะเกียบ ไม้จิ้มฟัน และตกแต่งร้านด้วยรูปภาพผี ลายเส้นการ์ตูน ชวนถ่ายภาพ สร้างบรรยากาศเสมือนอยู่โดลกแห่งวิญญาณ ซึ่งมาแค่จุดเดียวก็สามารถมาเรียนรู้ สนุกกับกิจกรรมถ่ายภาพอาคารเก่าในย่านนี้ และยังได้ไปสักการะพระบรมบรรพต หรือ ภูเขาทอง เมื่อลงมาแล้วยังสามารถไปถ่ายภาพ รูปปั้นจำลองฝูงแร้งกินศพ อีกด้วย
อีกหนึ่งพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวอยู่ไม่ห่างกัน “ย่านตลาดนางเลิ้ง” กับวัดสุนทรธรรมทาน หรือ วัดแค เรื่องราวในตำนาน มิตรชัย บัญชา ดารานักแสดงชื่อดังในอดีต เรื่องเล่าในช่วงเหตุการณ์เสียชีวิตเมื่อ พ.ศ. 2514 หรือ ตำนานเรื่องเปรต ซึ่งหลายคนอาจจะได้ยิน เรื่องเล่าที่วัดสุทัศน์ แต่วัดอื่น ๆ อย่างวัดโสมนัส มีตำนานเรื่องเล่าเรื่องเปรต จากคนในพื้นที่ที่เคยพานพบจนขนหัวลุก หรือ เสียงที่ไม่อยากได้ยินในยามค่ำคืนในช่วงวันเวลาในความเชื่อแบบไทย นอกจากไปค้นหาเรื่องราวตำนานหลอนแล้ว ก็ยังสามารถอิ่มอร่อยกับร้านอาหารในย่านชุมชน ซึ่งในพื้นที่ย่านเกาะรัตโกสินทร์ ย่านชุมชนเก่าในพื้นที่นี้ ก้ล้วนเป็นร้านอาหารมีชื่อเสียง เป็นร้านในตำนานที่สืบทอดมาแต่อดีต มาพร้อมกับยุคเรื่องเล่าหลอนเช่นกัน
“ททท. สำนักงานกรุงเทพ ได้ทำงานร่วมกับชุมชน ผู้ประกอบการท้องถิ่น ร้านอาหาร ที่พัก หน่วยงานราชการที่ดูแลในพื้นที่ รองรับต่อกิจกรรมท่องเที่ยวในรูปแบบต่าง ๆ และงานเทศกาล โดยเราจะช่วยสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ด้านข้อมูล ผ่านสื่อสารมวลชน อินฟลูเลนเซอร์ เพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยว และเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวให้เข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวให้ทราบถึงข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำไปสร้างรูปแบบกิจกรรมการท่องเที่ยว นำนักท่องเที่ยวมายังพื้นที่ต่าง ๆ รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวไทย สามารถวางแผนการท่องเที่ยวเบื้องต้นได้ โดยรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงศรัทธาและความเชื่อ ปัจจุบันกำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก”
ทั้งนี้ ททท. เชื่อมั่นว่า “เทศกาลขนหัวลุก Goosebump Market” จะสามารถสร้างกระแสการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ดึงดูดนักท่องเที่ยวสายศรัทธาและนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย ตลอดจนกระจายรายได้ให้กับผู้ประกอบการธุรกิจ ร้านค้า ชุมชนในพื้นที่จัดงานและพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการเดินทางช่วงกรีนซีซั่นหรือนอกฤดูกาลท่องเที่ยว
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงาน “เทศกาลขนหัวลุก Goosebump Market” ฟรี ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ตุลาคม 2567 ณ โรงงานมักกะสัน รฟท. ตั้งแต่เวลา 16.00 – 23.00 น. สำหรับการเดินทางมาร่วมงานสามารถนั่งรถประจำทางสาย 113, 140, 514, 539, 60, 72, และ 99 รถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีเขียว (สุขุมวิท) สถานีพยาไท N2 จุดเชื่อมต่อ Airport Rail Link พญาไท A8 รถไฟฟ้ามหานคร สายสีน้ำเงิน สถานีเพชรบุรี BL21 จุดเชื่อมต่อ Airport Rail Link สถานีมักกะสัน A6 สำหรับท่านใดที่ลงจาก Airport Rail Link สถานีราชปรารภ A7 ให้เดินไปประตู 1 โรงงานมักกะสัน การรถไฟแห่งประเทศไทย ระยะทางประมาณ 300 เมตร สำหรับท่านใดที่นำรถยนต์ส่วนตัวมา สามารถจอดรถได้ที่พื้นที่จอดรถบริเวณแอร์พอร์ต เรลลิงค์ มักกะสัน และโดยสารรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงค์จากสถานีมักกะสันมาลงที่สถานีราชปรารภ ซึ่งอยู่ห่างจากพื้นที่จัดงานประมาณ 300 เมตร โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook page : Thailand Goosebump Festival หรือ โทร. 1672 Travel Buddy