อ่วม! แอลพีจี ปรับขึ้น 15 บาทต่อถัง เริ่ม 1 เม.ย.นี้ – ค่าไฟขยับด้วย
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน แถลงสถานการณ์ราคาพลังงาน และแผนรับมือ หลังวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ทำเอาราคาน้ำมันดิบ ในตลาดโลก แตะ 130 ดอลลาร์/บาร์เรล และดีเซลสิงคโปร์พุ่งสูงสุดเป็น 180 ดอลลาร์/บาร์เรล
นายสุพัฒนพงษ์ ระบุว่า เพื่อความมั่นคง พลังงานจะเพิ่มสำรองน้ำมันทางกฏหมายเพิ่มขึ้นอีก ร้อยละ 1 โดยน้ำมันดิบ จะเพิ่มเป็นร้อยละ 5 (จากเดิมร้อยละ 4) น้ำมันสำเร็จรูปจะเพิ่มเป็นร้อยละ 2 (จากเดิมร้อยละ 1) คาดจะมีผลอีก 1 สัปดาห์ ส่วนนี้จะทำให้มีต้นทุนสำรองเพิ่มขึ้น 2.4 หมื่นล้านบาท และจะมีผลต่อภาคประชาชนเป็นราคาน้ำมันราว 60 สตางค์/ลิตร ซึ่งจะช่วยให้มีปริมาณน้ำมันสำรอง เพิ่มขึ้นอีก 7 วัน
ในส่วนของก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) นายสุพัฒนพงษ์ ระบุเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ จำเป็นต้องขยับราคาขึ้น 1 บาท/กก. หรือ 15 บาท/ถัง ขนาด 15 กก. ปรับเป็น 333 บาท/ถัง จากปัจจุบัน 318 บาท/ถัง (ซึ่งราคาแอลพีจีตุ้นทุนที่แท้จริงขณะนี้อยู่ที่463บาทต่อถัง)
สำหรับค่าไฟฟ้าขณะนี้ต้นทุนทุกด้านเพิ่มขึ้น ทำให้ต้นทุนสูงกว่าคาดการณ์ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ(เอฟที) งวดใหม่ เริ่ม พ.ค.-ส.ค. ต้นทุนค่าเอฟที ที่แท้จริงสูงกว่าประมาณการณ์เดิมที่คาดว่างวดนี้จะขึ้น 16 สตางค์ต่อหน่วย แต่รัฐบาลมีนโยบายว่าจะเข้ามาดูแลให้ค่าไฟฟ้าขึ้นในอัตราไม่เกิน คาดการณ์ 16 สตางค์ต่อหน่วย
และขณะนี้กำลังพิจารณาจะช่วยเหลือประชาชน โดยหากรายใดใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน หรือราว 1,200 บาท/เดือน กลุ่มนี้ จะจ่ายค่าไฟฟ้าในอัตราเดิมในงวดเอฟทีงวดแรก (ม.ค.-เม.ย.65 )